ทุกวันนี้เมนูของหวานหลายๆ อย่างที่ได้รับความนิยมมักจะใส่ท็อปปิ้ง และก็ราดซอสหวานมาด้วย โดยซอสที่นิยมราดกันจะมีไม่กี่อย่าง ส่วนมากก็จะมี ซอสช็อกโกแลต ซอสสตอเบอรี่ และซอสคาราเมล ซึ่งในบรรดาซอสทั้งหมดที่เราได้กล่าวมานี้ซอสคาราเมลถือเป็นอะไรที่สามารถทำได้ง่ายสุด และเป็นซอสที่ได้รับความนิยม เนื่องจากทำง่าย และมีรสชาติที่อร่อย หอม หวาน และยังช่วยทำให้ขนมดูน่าทานขึ้น อีกทั้งวัตถุดิบที่ใช้ในการทำซอสคาราเมลก็มีน้อยทำให้ไม่ต้องยุ่งยากในการเตรียมวัตถุดิบ ซึ่งถ้าใครสนใจอยากลองทำก็สามารถตามเรามาทางนี้ได้เลย เพราะวันนี้เรามีวิธีง่ายๆ ในการทำซอสคาราเมลเอามาฝาก ว่าแล้วก็มาดูกันเลยค่ะ
วิธีทำซอสคาราเมล
การทำซอสคาราเมลนั้นง่ายและสามารถทำได้ด้วยส่วนผสมเพียงไม่กี่อย่าง โดยมีสูตร และขั้นตอนในการทำดังนี้
ส่วนผสม
- ใช้น้ำตาลทรายขาว 1 ถ้วย แต่ถ้าอยากให้สีคาราเมลมีความเข้มข้นมากขึ้นให้ใช้น้ำตาลทรายแดง
- ใช้น้ำเปล่า 1/4 ถ้วย เพื่อช่วยให้น้ำตาลละลายและไม่ให้ไหม้ง่าย
- ใช้เนยจืด 1/2 ถ้วย
- ใช้ครีมหนัก Heavy cream (ครีมที่มีความเข้มข้นสูง ) 1/2 ถ้วย (หรือครีมสด fresh cream )
- วานิลลาสกัด 1 ช้อนชา
ขั้นตอนในการทำคาราเมล
- ละลายน้ำตาล ใส่น้ำตาลและน้ำลงในหม้อที่มีขนาดเหมาะสม วางบนเตาที่ความร้อนปานกลาง ใช้ช้อนไม้คนจนน้ำตาลละลายและเริ่มเดือด จากนั้นหยุดคนและปล่อยให้น้ำตาลเดือดจนกว่าจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลทองอ่อนๆ ประมาณ 5-10 นาที หมั่นดูอย่าให้น้ำตาลไหม้
- เติมเนย เมื่อน้ำตาลเป็นสีที่ต้องการแล้ว ให้ลดไฟลงและใส่เนยลงไป คนให้เนยละลายและเข้ากันกับน้ำตาล
- เติมครีม ระวังในขั้นตอนนี้เพราะซอสจะมีฟองขึ้นเมื่อเติมครีม ค่อยๆ เติมครีมลงไป และคนอย่างต่อเนื่องจนกว่าซอสจะเนียน
- ปรุงรส เติมวานิลลาและเกลือเล็กน้อย (ถ้าต้องการให้มีความเค็มนิดๆ) และคนให้เข้ากัน
- ต้มคาราเมล และปล่อยให้เดือดอีกครั้ง และลดไฟให้ต่ำที่สุด เคี่ยวประมาณ 1 นาทีจนกว่าซอส หรือตัวคาราเมลจะเข้มข้นขึ้น
วิธีในการเก็บรักษาซอสคาราเมลให้อยู่ได้นานขึ้น
- การใช้ความเย็น
พักให้ซอสเย็นลงก่อนเก็บ: หลังจากทำซอสคาราเมลเสร็จ ให้ปล่อยให้เย็นลงที่อุณหภูมิห้องก่อนจะเก็บเข้าตู้เย็น การเก็บซอสร้อนๆ สามารถทำให้เกิดการควบแน่นภายในภาชนะเก็บ ซึ่งอาจทำให้ซอสเสียได้เร็วขึ้น
ใช้ภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด: เทซอสคาราเมลใส่ภาชนะที่สะอาดและแห้งที่มีฝาปิดได้สนิท เช่น ขวดแก้วหรือถ้วยพลาสติกที่สามารถปิดฝาได้แน่นหนา การใช้ภาชนะที่มีฝาปิดจะช่วยป้องกันไม่ให้ซอสสัมผัสกับอากาศและแบคทีเรียที่อาจทำให้เสีย
เก็บในตู้เย็น: ซอสคาราเมลควรเก็บในตู้เย็นเพื่อชะลอการเติบโตของแบคทีเรีย และรักษาคุณภาพของซอสให้อยู่ได้นาน ซอสคาราเมลที่เก็บในตู้เย็นสามารถเก็บได้ประมาณ 2-3 สัปดาห์
แช่แข็ง: หากต้องการเก็บซอสคาราเมลไว้นานกว่านั้น สามารถแช่แข็งได้ ให้แบ่งซอสออกเป็นส่วนๆ ในภาชนะเล็กๆ หรือถุงแช่แข็งที่ปิดสนิท แช่แข็งซอสคาราเมลสามารถเก็บได้นานถึง 3 เดือน ก่อนใช้ให้ละลายในตู้เย็นก่อนและอุ่นซอสอีกครั้งหากจำเป็น
- ข้อควระวังเพิ่มเติม
ควรที่จะต้องตรวจสอบสภาพซอสก่อนทานทุกครั้ง หากมีสีหรือกลิ่นที่ผิดปกติไปจากเดิม ไม่ควรบริโภค
บทสรุป
เป็นยังไงกันบ้างคะ กับวิธีการทำซอสคาราเมลที่เราได้เอามาฝาก ลองเอาไปทำกันดูนะคะ หรือถ้าใครไม่สะดวกทำก็สามารถหาซื้อที่เป็นสำเร็จรูปเอามาทานก็ได้ค่ะ ซึ่งมีให้เลือกซื้อหลากหลายแบบมาก มีทั้งแบบที่เป็นแคลอรี่ต่ำ น้ำตาลน้อย และมีการใช้สารให้ความหวานชนิดอื่นทดแทน เหมาะสำหรับคนที่รักสุขภาพ หรือผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก ทำให้ผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนักสามารถรับประทานเมนูที่มีซอสคาราเมลได้มากขึ้นค่ะ