ท้องลายหลังคลอดเป็นปัญหาผิวที่พบได้บ่อยของคุณแม่ตั้งครรภ์ ซึ่งมันเกิดจากผิวหนังถูกขยายอย่างรวดเร็ว ทำให้เนื้อเยื่อใต้ผิวหนังฉีกขาด จนเป็นรอยแตกลาย หรือเส้นรอยแตกลาย โดยปกติเส้นใยคอลลาเจน และอีลาสตินในผิวหนังจะช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่น เมื่อเกิดการขยายตัวอย่างรวดเร็วและมากเกินไป เช่น ในระหว่างตั้งครรภ์ หรือน้ำหนักจะขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจทำให้เส้นใยเหล่านี้ไม่สามารถรองรับการขยายตัวได้ จึงทำให้เกิดรอยแตกลายที่ผิว ทำให้ผิวดูไม่น่ามอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ต้องเป็นกังวลไปค่ะ เพราะมันมีวิธีป้องกัน และวิธีในการรักษาให้ผิวกลับมาสวยใสเหมือนเดิมได้ ซึ่งวันนี้เราก็เอาวิธีในการรักษาต่างๆ เหล่านั้นเอามาฝากให้ด้วย พร้อมแล้วมาดูกันเลยค่ะ
วิธีป้องกันท้องลายหลังคลอด
- รักษาระดับน้ำหนักให้สมดุล หลีกเลี่ยงการเพิ่มน้ำหนักอย่างรวดเร็ว โดยปรึกษากับแพทย์เพื่อหาน้ำหนักที่เหมาะสมในช่วงตั้งครรภ์ และพยายามควบคุมให้อยู่ในเกณฑ์ที่แพทย์แนะนำ
- บำรุงผิว ใช้ครีมหรือโลชั่นที่มีส่วนผสมของวิตามิน E, วิตามิน A, และโคโคอาบัตเตอร์ เพื่อช่วยให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่น ทาโลชั่นเป็นประจำทุกวันบริเวณท้อง หน้าอก สะโพก และต้นขา
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ น้ำช่วยให้ผิวหนังมีความชุ่มชื้นและยืดหยุ่นได้ดีขึ้น ควรดื่มน้ำอย่างน้อย 8-10 แก้วต่อวัน
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ รับประทานอาหารที่อุดมด้วยโปรตีน วิตามิน C วิตามิน E และสังกะสี เพื่อช่วยสร้างคอลลาเจนและการซ่อมแซมผิวหนัง
- ออกกำลังกายเป็นประจำ ออกกำลังกายเป็นประจำสามารถช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ซึ่งจะช่วยบำรุงผิวพรรณให้แข็งแรงและยืดหยุ่น
ควรเลือกวิธีในการรักษารอยแตกลายแบบไหนดี ระหว่างรักษาด้วยตนเอง หรือจะใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์
ในการเลือกวิธีที่จะใช้ในการรักษานั้นอาจจะต้องขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ระดับความรุนแรงของรอยแตกลาย, งบประมาณ, และความเสี่ยง การรักษาด้วยตนเองอาจเหมาะสมสำหรับรอยแตกลายที่ไม่รุนแรงมาก หรือเป็นตัวเลือกสำหรับคนที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายในการรักษา ในขณะที่การรักษาทางการแพทย์เหมาะกับรอยแตกลายที่รุนแรงกว่า หรือกับคนที่ต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้นแต่อาจมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าการรักษาด้วยตนเอง
วิธีทำให้รอยแตกลายดูจางลงด้วยตนเอง
- เลือกการใช้ครีม หรือโลชั่นบำรุงผิว ที่มีส่วนผสมของวิตามิน E, เรตินอล เป็นวิตามินเอรูปแบบหนึ่งของกลุ่มเรตินอยด์ และไฮยาลูโรนิก แอซิด ทั้งนี้ควรใช้ครีมบำรุงเหล่านี้ให้ให้เป็นประจำ และสม่ำเสมอเพื่อเห็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
- การใช้น้ำมันธรรมชาติ น้ำมันมะพร้าว, น้ำมันอาร์แกน, และน้ำมันโจโจบา เป็นต้น น้ำมันเหล่านี้ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว
- การทานอาหารที่มีประโยชน์ การกินอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีนและวิตามินเช่น วิตามิน C และ E สามารถช่วยซ่อมแซมและเสริมสร้างผิวพรรณ
- ออกกำลังกาย การออกกำลังกายช่วยให้เลือดไหลเวียนดี และยังส่งผลดีต่อสุขภาพผิว
การใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ในการรักษาในการลดรอยแตกลาย
- รักษารอยแตกลายด้วยเลเซอร์ เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมสูงสุดในการลดรอยแตกลาย โดยเลเซอร์จะทำหน้าที่กระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหนัง เพื่อซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสียหายและช่วยให้รอยแตกลายดูจางลง
- รักษาด้วยไมโครนีดเดิล Microneedling เป็นการนำตัวยาผสมเข้าไปในเข็มขนาดเล็กไม่เกิน 1 มิลลิเมตร (1,000 ไมครอน) ส่งไปยังชั้นลึกของผิวหนังตามที่กำหนด เป็นการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ซึ่งช่วยซ่อมแซมและสร้างผิวหนังใหม่ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้นและรอยแตกลายดูจางลง
- รักษาด้วยการฉีด Fillers ใช้สารเติมเต็มเช่น ไฮยาลูโรนิก แอซิด ฉีดเข้าไปในบริเวณที่มีรอยแตกลาย เพื่อเพิ่มความหนาแน่นและยืดหยุ่นให้กับผิว ทำให้รอยแตกลายดูเต็มขึ้นและจางลง
- รักษาด้วยสารเคมี โดยจะใช้สารเคมีที่มีความเข้มข้นสูงในการทำเปลือกผิว (Chemical Peels) เพื่อลอกเซลล์ผิวที่เสียหายออก ซึ่งช่วยให้เซลล์ผิวใหม่ที่สุขภาพดีกว่าเดิมเติบโตขึ้นมา
กล่าวโดยสรุป
ถึงแม้ว่าปัญหารอยแตกลายจะไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่ก็ทำให้สาวๆ หลายคนขาดความมั่นใจได้โดยเฉพาะกับสาวๆ ที่ชอบแต่งตัวที่ต้องโชว์ผิว เราจึงอยากแนะนำให้เริ่มดูแลตัวเองให้ดีตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะการรักษารอยแตกลายในระยะเริ่มต้นที่รอยแตกลายเป็นสีแดงสามารถรักษาให้หายได้ง่ายกว่าการปล่อยไว้นานๆ จนรอยแตกลายเปลี่ยนเป็นสีขาว ซึ่งรักษาเองค่อนข้างยาก ทั้งนี้ในการเลือกวิธีการรักษาท้องลายหลังคลอด และรอยแตกลายที่อื่นๆ อาจขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย หากรอยแตกลายของคุณยังเป็นสีแดงอยู่ลองใช้วิธีการรักษาด้านบนที่เราได้เอามาฝากได้เลย แต่หากรอยแตกลายของคุณกลายเป็นสีขาวไปแล้วแนะนำให้ใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์เข้ามาช่วยจะเห็นผลลัพธ์ที่ดีกว่าการรักษาด้วยตนเองแน่นอนค่ะ