การรักษาภาวะวัยทอง
การรักษาภาวะวัยทองที่มีประสิทธิภาพนั้นมีหลายวิธี ตั้งแต่การปรับวิถีชีวิตเพื่อสุขภาพที่ดี การรักษาตามอาการ ตลอดไปจนถึงการบำบัดด้วยฮอร์โมน ดังนี้
1.การใช้เจลหล่อลื่น ยาเม็ดสำหรับสอดช่องคลอด กรณีช่องคลอดแห้ง
2.การใช้ยาแก้ปวด เพื่อบรรเทาอาการปวดต่างๆ เช่น ปวดข้อ ปวดศีรษะ
3.การใช้ยาลดอาการซึมเศร้าขนาดต่ำ โดยให้ใช้ภายใต้ดุลยพินิจของแพทย์
4.การให้ฮอร์โมนทดแทน (Hormone Replacement Therapy – HRT)
เป็นการรักษาเพื่อช่วยปรับสมดุลระดับฮอร์โมนของร่างกาย โดยให้ระดับยาไม่สูง ในระยะเวลาที่ไม่นานเกินไป ยาที่ให้ประกอบด้วย ฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน
ฮอร์โมนทดแทนมี 2 รูปแบบ ได้แก่
การให้ฮอร์โมนเอสโตรเจน กับ โปรเจสเตอโรน สำหรับผู้ที่ยังมีมดลูกอยู่
การให้ฮอร์โมนเอสโตรเจนเพียงอย่างเดียว สำหรับผู้ที่ไม่มีมดลูกแล้ว
ทั้งนี้ การบำบัดด้วยฮอร์โมนทดแทนนั้นมีอยู่หลายรูปแบบ ทั้งยาเม็ด หรือยาปรับฮอร์โมนวัยทอง แผ่นแปะผิวหนัง และเจลทาผิวหนังเฉพาะที่ ซึ่งสามารถช่วยลดอาการของวัยหมดประจำเดือนต่างๆ ได้ดี อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลพบว่าการใช้ฮอร์โมนบำบัดอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคบางอย่างได้ โดยเฉพาะผู้มีปัจจัยเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพ เช่น โรคลิ่มเลือดอุดตัน ระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูง โรคตับ และโรคมะเร็งเต้านม อีกทั้งยังต้องระวังเรื่องมะเร็งในเยื่อบุโพรงมดลูกด้วย ดังนั้น สิ่งสำคัญที่ควรทำ คือ การที่ต้องปรึกษา ทำการรักษา และตรวจติดตามกับแพทย์ผู้ชำนาญการเท่านั้น และทำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากการใช้ฮอร์โมนทดแทนที่อาจเกิดขึ้นได้
ในกรณีกระดูกพรุน สามารถให้ยาที่รักษาโรคกระดูกพรุนโดยตรง ร่วมกับการรับประทานแคลเซียมและวิตามินดี
บทสรุป
อาการวัยทองเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกาย โดยเฉพาะในผู้หญิงที่เข้าสู่วัยหมดประจำเดือน และในผู้ชายที่มีฮอร์โมนเพศลดลง อาการที่พบบ่อย ได้แก่ ร้อนวูบวาบ เหงื่อออกตอนกลางคืน อารมณ์แปรปรวน และปัญหาการนอนหลับ วิธีแก้อาการวัยทองสามารถจัดการได้ด้วยการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต การรับประทานอาหารที่เหมาะสม การใช้สมุนไพรและอาหารเสริม และการรับคำปรึกษาจากแพทย์