โรคที่เกี่ยวข้องกับมือชา เท้าชา
อาการมือชา เท้าชา สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ และมักเป็นสัญญาณเตือนของโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาท การไหลเวียนเลือด หรือโรคเรื้อรังอื่นๆ นี่คือโรคที่พบได้บ่อยซึ่งเกี่ยวข้องกับอาการชา
โรคเส้นประสาทส่วนปลายเสื่อม (Peripheral Neuropathy)
เกิดจากการทำงานผิดปกติของเส้นประสาทที่ส่งสัญญาณระหว่างสมอง ไขสันหลัง และส่วนปลายของร่างกาย
สาเหตุ: โรคเบาหวาน การขาดวิตามินบี การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป หรือพิษจากสารเคมี
อาการ: มือชา เท้าชา รู้สึกเหมือนถูกเข็มทิ่ม หรือปวดแสบ
โรคหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาท (Herniated Disc)
เกิดจากหมอนรองกระดูกเคลื่อนออกมากดทับเส้นประสาทไขสันหลัง
สาเหตุ: ยกของหนักผิดท่า การบาดเจ็บ หรือโรคกระดูกเสื่อม
อาการ: ชาร่วมกับปวดที่แขนหรือขา อาการจะรุนแรงขึ้นเมื่อไอหรือจาม
โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke)
เกิดจากการอุดตันหรือแตกของหลอดเลือดในสมอง ทำให้สมองขาดเลือดและออกซิเจน
สาเหตุ: ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคหัวใจ
อาการ: ชาเฉพาะด้านของร่างกาย เช่น แขนข้างเดียว หรือมือข้างเดียวร่วมกับอ่อนแรง
โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง (Multiple Sclerosis – MS)
เกิดจากการอักเสบและการทำลายปลอกไมอีลินที่หุ้มเส้นประสาท
สาเหตุ: เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับภูมิคุ้มกันที่ทำลายตัวเอง (Autoimmune)
อาการ: มือชา เท้าชา ร่วมกับอ่อนแรง ตาพร่ามัว หรือปัญหาในการเคลื่อนไหว
โรคเบาหวาน (Diabetes)
ผู้ป่วยเบาหวานมักมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดเส้นประสาทส่วนปลายเสื่อม
สาเหตุ: ระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานาน
อาการ: ชาที่ปลายมือ ปลายเท้า หรือรู้สึกปวดแสบในบางครั้ง
โรคพังผืดกดทับเส้นประสาทข้อมือ (Carpal Tunnel Syndrome)
เกิดจากการกดทับเส้นประสาทที่ข้อมือ
สาเหตุ: การใช้งานมือซ้ำๆ เช่น การพิมพ์งาน หรือการจับเครื่องมือหนัก
อาการ: ชาเฉพาะที่มือ นิ้วโป้ง นิ้วชี้ และนิ้วกลาง
โรคระบบไหลเวียนเลือดผิดปกติ (Peripheral Artery Disease – PAD)
เกิดจากหลอดเลือดที่ส่งเลือดไปเลี้ยงแขนและขาตีบแคบ
สาเหตุ: ภาวะไขมันอุดตันในหลอดเลือด
อาการ: ชา เท้าเย็น หรือปวดเมื่อเดิน
โรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง (Autoimmune Diseases)
เช่น โรคไทรอยด์อักเสบ โรค SLE หรือโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง
สาเหตุ: การอักเสบของเส้นประสาทจากภูมิคุ้มกันที่โจมตีเนื้อเยื่อของตัวเอง
อาการ: ชาในส่วนต่างๆ ของร่างกาย
การขาดวิตามิน
การขาดวิตามิน เช่น วิตามินบี 12 หรือบี 6 อาจส่งผลต่อระบบประสาท
สาเหตุ: โภชนาการที่ไม่สมดุล โรคระบบทางเดินอาหาร หรือการดื่มแอลกอฮอล์
อาการ: ชา ปวด หรือรู้สึกมึนงง
โรคจากการกดทับเส้นประสาทส่วนต่างๆ
โรคปวดตึงบริเวณเส้นประสาทต้นคอ (Cervical Radiculopathy)
เกิดจากการกดทับเส้นประสาทที่ออกจากกระดูกต้นคอ
อาการ: ชาร่วมกับปวดร้าวลงไปที่แขน
การบาดเจ็บที่เส้นประสาทหรือไขสันหลัง
การกระแทกหรืออุบัติเหตุที่เส้นประสาทหรือไขสันหลัง
สาเหตุ: การเกิดอุบัติเหตุหรือล้ม
อาการ: ชาร่วมกับอ่อนแรง เคลื่อนไหวลำบาก
สัญญาณเตือนที่ควรพบแพทย์ทันที
ชาเฉียบพลันหรือรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
ชาร่วมกับอ่อนแรงหรือสูญเสียการเคลื่อนไหว
อาการชาร่วมกับเวียนศีรษะ พูดไม่ชัด หรือปวดหัวรุนแรง
ชาในบริเวณกว้าง เช่น ทั้งแขนหรือทั้งขา
การรักษาโรคที่เกี่ยวข้องกับมือชา เท้าชา ขึ้นอยู่กับโรคที่เป็นต้นเหตุ เช่น การใช้ยา กายภาพบำบัด หรือการผ่าตัดในบางกรณีการป้องกันโรคที่เกี่ยวข้องกับมือชา เท้าชา ดูแลสุขภาพด้วยโภชนาการที่ดี ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง เช่น การกดทับเส้นประสาทหรือการดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป