โรคที่พบได้บ่อยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยมลภาวะคงจะหนีไม่พ้น โรคภูมิแพ้ ซึ่งฝุ่น ควัน สารพิษ ขยะ น้ำเน่าเสียจะเพิ่มความเสี่ยงให้ระบบภูมิคุ้มกันภายในร่างกายต้องทำงานเพิ่มมากขึ้น
สาเหตุของอาการแพ้
- กรรมพันธุ์ พบว่าถ้าพ่อและแม่เป็นโรคภูมิแพ้ ลูกที่เกิดมามีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้ 50-70%
- สภาพแวดล้อม ถ้าอาศัยอยู่ในที่ที่มีสารก่อภูมิสูง จะมีโอกาสเป็นได้มากกว่า
อาการแพ้มักมาจาก 2 สาเหตุใหญ่ ๆ ในส่วนของสาเหตุอื่น ได้แก่ ระคายเคืองโดยเฉพาะจากควันบุหรี่ การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ การได้รับโปรตีนแปลกปลอมในช่วงอายุที่ไม่เหมาะสม
อาการของโรคภูมิแพ้อากาศ
หรือเรียกว่า โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ (Allergic Rhinitis) อาการที่พบบ่อย มีดังนี้
- น้ำมูกมีสีใส คัดจมูก คันในจมูก จาม น้ำมูกไหลลงคอ เสียงขึ้นจมูก อาจหายใจติดขัดทางจมูกจนต้องอ้าปากหายใจ มีเสมหะไหลลงคอ
- ปวดแน่นบริเวณใบหน้า ปวดศีรษะ เจ็บและคันในลำคอ ตาแดง น้ำตาไหลมากผิดปกติ และคันในตา
- หูอื้อ มีอาการคันในหู หรือหูชั้นกลางอักเสบ มีน้ำในหูชั้นกลาง โดยจะมีอาการเรื้อรังเป็น ๆ หาย ๆ มักเป็นในช่วงเช้าและกลางคืน
สาเหตุของโรคภูมิแพ้อากาศ
เกิดจากการตอบสนองต่อสารก่อภูมิแพ้ในอากาศไวเกินไป โดยระบบภูมิคุ้มกันเข้าใจผิดว่าสารก่อภูมิแพ้ที่ได้รับเป็นสารที่อันตราย ทำให้หลั่งสารเคมีที่ร่างกายผลิตออกมาเพื่อกำจัดสารก่อภูมิแพ้เหล่านั้น หนึ่งในนั้นคือฮิสตามีน ที่ก่อให้เกิดการอักเสบบริเวณเยื่อบุผิวในจมูก ลำคอ และดวงตา
- สารก่อภูมิแพ้ที่กระตุ้นให้เกิดอาการของโรค ได้แก่
- ไรฝุ่นในบ้าน
- ละอองเกสรดอกไม้หรือสปอร์เชื้อรา
- ขนหรือสะเก็ดผิวหนังของสัตว์
- น้ำลายหรืออุจจาระแมลงสาบ
ข้อสรุปสำคัญของโรคภูมิแพ้อากาศ
เมื่อมีอาการดังกล่าวข้างต้น แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อเข้ารับการรักษา โดยแพทย์อาจซักประวัติ และตรวจหาสารก่อภูมิแพ้โดยใช้วิธีที่เรียกว่า การสะกิดผิวหนัง (Skin Prick Test) ในการรักษาทำได้โดยหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้
รวมถึงการใช้ยาบรรเทาอาการ เช่น ยาต้านฮิสทามีน ยาหดหลอดเลือดที่มีทั้งชนิดรับประทานและพ่นจมูก รวมถึงยาสเตียรอยด์ (Corticosteroids) ที่เป็นการรักษามาตรฐานของโรคนี้ โดยเป็นยาที่มีประสิทธิภาพในการรักษาโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้มากที่สุด ตลอดจนการรักษาอื่น ๆ ได้แก่ การฉีดวัคซีน การผ่าตัด เป็นต้น